สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

เห็ดหลินจือ ของขมที่รอการพิสูจน์

เห็ดหลินจือ หรือที่รู้จักในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ganoderma sichuanense และ Ganoderma lingzhi เป็นเห็ดในตระกูล Ganoderma มีลักษณะเด่นคือมีหมวกรูปไต สีน้ำตาลแดง มันวาว มีลายเส้นและก้านดอกที่งอกออกมาจากขอบ ทำให้มีรูปร่างคล้ายพัด เห็ดสดจะมีลักษณะนุ่ม ด้านใต้ของหมวกเห็ดไม่มีครีบ แต่จะมีรูขนาดเล็กราว 80-120 ไมโครเมตร สำหรับปลดปล่อยสปอร์สีเหลืองออกมา เห็ดหลินจือมักเจริญเติบโตที่โคนของต้นไม้ผลัดใบ โดยเฉพาะต้นเมเปิ้ล แต่จะมีต้นไม้เหล่านี้เพียง 2-3 ต้นจาก 10,000 ต้นเท่านั้นที่จะมีเห็ดหลินจืองอกขึ้นมา ทำให้หาชนิดนี้ได้ยากในธรรมชาติ ซึ่งการเพาะเลี้ยงเห็ดหลินจือสามารถทำได้บนไม้เนื้อแข็ง ขี้เลื่อย หรือชิ้นไม้สับ

เห็ดหลินจือ หรือที่เรียกกันว่าเห็ดเรอิชิตามการออกเสียงภาษาญี่ปุ่น ได้รับการยอมรับว่าเป็น “เห็ดแห่งความเป็นอมตะ” ถูกนำมาใช้ในการแพทย์แผนจีนเป็นเวลานาน วิธีการปรุงเห็ดชนิดนี้มีหลายวิธี เช่น การใช้เป็นยาพื้นบ้านแบบดั้งเดิม จะนำเห็ดหลินจือทั้งสดหรือแห้งมาฝานบางๆ หรือบดเป็นผง เทลงในน้ำที่ต้มจนเดือดและตุ๋นต่อไปราว 2 ชั่วโมง จนกว่าน้ำจะมีสีเข้มและได้รสขมจัด แล้วจึงนำมาจิบ โดยเห็ดหลินจือแดงมักจะมีรสขมกว่าเห็ดหลินจือดำ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เห็ดหลินจือทำสารสกัดในรูปแบบของเหลว แคปซูล หรือผง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอที่จะยืนยันว่าการบริโภคเห็ดหลินจือหรือสารสกัดจากเห็ดชนิดนี้มีผลต่อสุขภาพหรือโรคต่างๆ ของมนุษย์ ขณะเดียวกันจากบทความทางวิทยาศาสตร์ยังมีการถกเถียงกันว่าเห็ดชนิดไหนในตระกูล Ganoderma ที่เป็นเห็ดหลินจือ เพราะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน

เครดิตภาพ: Ganoderma lingzhi โดย TecheOldFox (Techieoldfox) | Wikimedia Commons | CC BY-SA 3.0

ปัจจุบัน Ganoderma sichuanense จัดเป็นเห็ดหลินจือที่พบเห็นกันได้มากที่สุดในร้านขายยาสมุนไพรจีน โดยในประเทศจีนนั้นมีการเพาะเลี้ยงดอกเห็ดหลินจือกันอย่างแพร่หลาย และถูกส่งจำหน่ายไปยังหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีเห็ด Ganoderma ชนิดอื่น ๆ ประมาณ 7-10 ชนิดที่ขายในบางร้านค้า แต่มีชื่อภาษาจีนและละตินที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจมีคุณสมบัติและการออกฤทธิ์ที่ต่างกัน ความแตกต่างเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของไตรเทอร์ปีน ซึ่งมีความหลากหลายในแต่ละชนิด

ลักษณะของเห็ดหลินจือจะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เช่น ในพื้นที่ที่คาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณสูงจะทำให้เห็ดหลินจือมีก้านที่ยาว และงอกเติบโตขึ้นโดยไม่มีหมวกเห็ด ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อรูปทรงชองเห็ด ได้แก่ แสง อุณหภูมิ และความชื้น

แม้ในปัจจุบันเห็ดหลินจือจะเป็นที่นิยมในการนำมาบริโภค แต่ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว  รวมทั้งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากสมุนไพรที่มีคุณค่านี้

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook