สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ติดตามสุขภาพข้าวด้วยเทคโนโลยีสำรวจระยะไกล

ข้าวนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมมากกว่าครึ่งของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องพึ่งพาน้ำฝนถึง 75% ของการเพาะปลูกทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เกษตรกรไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ทั้งภัยแล้ง อุณหภูมิที่สูงขึ้น และการจัดการทรัพยากรที่ไม่เหมาะสม ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าว การตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้และการหาวิธีแก้ไขอย่างทันท่วงทีจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกร โดยสามารถเก็บข้อมูลจากระยะไกลโดยไม่ต้องสัมผัสพื้นที่โดยตรง ทำให้สามารถพยากรณ์ผลผลิตและติดตามสุขภาพของพืชได้อย่างแม่นยำ เมื่อนำมาใช้ร่วมกับเทคนิค Eddy Covariance ซึ่งวัดอัตราการสังเคราะห์แสงของพืช ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่ปลูกข้าว การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ จะช่วยให้เกษตรกรสามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงในการผลิต และเพิ่มผลผลิตข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมของไทยให้ก้าวหน้าและยั่งยืนในอนาคต

โครงการวิจัยนี้เป็นการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาระบบติดตามและเตือนภัยสำหรับการเพาะปลูกข้าวที่มีความแม่นยำสูง โดยทีมวิจัยได้ผสานข้อมูลจากการสำรวจระยะไกลและเทคนิค Eddy Covariance เพื่อพัฒนาดัชนีตรวจติดตามการใช้น้ำและความเครียดของต้นข้าว ในโครงการวิจัยระยะแรก ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบการใช้ปุ๋ยในนาชลประทานที่จังหวัดชัยนาท ซึ่งผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินของกรมการข้าวสามารถลดต้นทุนการผลิตได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิต นอกจากนี้ ยังพบว่าแปลงข้าวมีศักยภาพในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการเจรจาการค้าระหว่างประเทศเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

โครงการวิจัยในปีที่ 2 ทีมวิจัยมุ่งเน้นการทดสอบเทคนิคการตรวจวัดความเครียดของต้นข้าวในพื้นที่นาชลประทานในจังหวัดชัยนาทและนาน้ำฝนในจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อการวิเคราะห์ผลกระทบจากการจัดการน้ำและปุ๋ยต่ออัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงและการใช้น้ำ รวมถึงการพัฒนาดัชนีสเปกตรัมที่เหมาะสมจากการสำรวจระยะไกลเพื่อติดตามการใช้น้ำและความเครียดของข้าวในแปลงปลูก โดยใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น ระบบ Eddy Covariance, UAV, และกล้อง Multi-Spectrum Camera เพื่อเก็บข้อมูลอย่างละเอียดและแม่นยำ การวิจัยนี้ยังได้ทำการศึกษาการจัดการน้ำแบบสลับเปียกและแห้ง (AWD) และการติดตามการปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งจะช่วยให้ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ของระบบนิเวศในแปลงข้าว

ผลสำเร็จจากการวิจัยนี้จะนำไปสู่การพัฒนาระบบช่วยตัดสินใจและระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้เกษตรกรสามารถจัดการพื้นที่ปลูกข้าวได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสนับสนุนประเทศไทยในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับนานาชาติอีกด้วย

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook