การเกษตรเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทยมาอย่างยาวนาน โดยประเทศไทยได้รับการยอมรับ ในฐานะผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ด้วยผลผลิตทางการเกษตรที่มีชื่อเสียงอย่างข้าว มันสำปะหลัง และน้ำตาล อย่างไรก็ตาม ภาคเกษตรกรรมของไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน รวมทั้งปัจจุบันขาดแคลนเกษตรกรรุ่นใหม่ด้วย
ปัญหาดังกล่าวมีความความรุนแรงมากขึ้นเมื่อพิจารณาถึงสัดส่วนทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีพื้นที่เกษตรกรรมมากถึงร้อยละ 47.5 ของพื้นที่ทั้งหมด แต่กลับพบว่าภาคการเกษตรมีสัดส่วนต่อ GDP เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ในขณะที่ต้องนำเข้าปัจจัยการผลิตมูลค่าสูงเกือบแสนล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ภาคการเกษตรไทยยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติอย่างรุนแรง ในขณะที่ความต้องการอาหารของประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับเกษตรกรไทย การรับมือกับปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร ในการปรับตัวและพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับภาคเกษตรไทยให้ก้าวทันโลกและยั่งยืนต่อไปในอนาคต
โครงการชลประทานแม่กลองใหญ่เป็นโครงการชลประทานที่มีขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 3.2 ล้านไร่ใน 7 จังหวัด ตอบสนองความต้องการด้านการเกษตร รวมถึงการอุปโภคบริโภค การจัดหาน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค การบรรเทาอุทกภัย การประมง และคมนาคม และยังครอบคลุมถึงการระบายน้ำและการป้องกันน้ำเค็มอีกด้วย พื้นที่เกษตรกรรมในโครงการมีความหลากหลายของพืชผล ตั้งแต่ข้าวไปจนถึงพืชเศรษฐกิจ เช่นอ้อยและกล้วยไม้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนในการบริหารจัดการน้ำ
ดังนั้น การพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลศูนย์กลางและแอปพลิเคชันมือถือสำหรับวางแผนการจัดสรรน้ำแบบเรียลไทม์จึงเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการใช้น้ำ โครงการวิจัยนี้จะช่วยให้การจัดสรรน้ำมีความแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการบูรณาการเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับภาคการเกษตรดั้งเดิม ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาการเกษตรไทยให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ทีมวิจัยจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ริเริ่มโครงการ “ระบบบริหารจัดการข้อมูลศูนย์กลางเพื่อสนับสนุนการจัดสรรน้ำในพื้นที่ต้นแบบโครงการชลประทานแม่กลองใหญ่” เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดสรรน้ำในโครงการชลประทานแม่กลองใหญ่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลศูนย์กลางที่ทันสมัย การดำเนินงานของทีมวิจัยครอบคลุมการพัฒนาระบบตรวจวัดระดับและปริมาณน้ำแบบเรียลไทม์ในคลองชลประทาน ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในการตรวจวัดน้ำแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้สร้างระบบรับข้อมูลการติดตามจัดสรรน้ำที่เอื้อให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มเกษตรกร ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรน้ำ และยังช่วยลดความขัดแย้งในการบริหารจัดการน้ำอีกด้วย
ผลสำเร็จของโครงการวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงการนำนวัตกรรมทางสังคมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาการจัดสรรน้ำอย่างเป็นรูปธรรม โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดการสูญเสียน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการบริหารจัดการน้ำชลประทานอย่างยั่งยืนในอนาคต ทั้งในสภาวะปกติและยามเกิดภัยแล้ง นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการเกษตรไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง