คุณเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ “ไข่ผำ”พืชน้ำขนาดจิ๋วที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในวงการอาหารและโภชนาการกันบ้างหรือไม่
ไข่ผำ หรือ ไข่แหน หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Wolffia globosa) เป็นพืชดอกชนิดหนึ่งมีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Asian water meal และ duckweed จัดเป็นพืชน้ำที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกที่มีขนาดเล็กจนแทบมองไม่เห็น และเป็นพืชชนิดหนึ่งของวงศ์ Lemnaceae สกุล Wolffia มีถิ่นกำเนิดในเอเชียและเติบโตได้ดีในหลายภูมิภาค ทั้งเขตอบอุ่น กึ่งร้อนชื้น และร้อนชื้น จึงพบได้ทั่วโลก ทั้งทวีปอเมริกา แอฟริกา ยุโรป ไปจนถึงออสเตรเลียและบราซิล ไข่ผำจะอาศัยอยู่บนผิวน้ำจืดที่เป็นน้ำนิ่งหรือน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ตาม สระน้ำ ทะเลสาบ และบึง แม้จะมีขนาดที่เล็กมากแต่เมื่อเกาะกลุ่มกันจำนวนมากจะมองเห็นคล้ายแหนแผ่นใหญ่
เครดิตภาพ: Wolffia globosa โดย Nesnad | Wikimedia Commons | CC BY 4.0
ไข่ผำมีรูปร่างกลมรีคล้ายไข่ มีลักษณะแบนๆ สีเขียวอมเหลืองโปร่งแสงและขนาดเล็กเพียง 1 มิลลิเมตร ไม่มีราก กิ่งและใบ มีเกสรเพศเมียและเกสรเพศผู้เพียงอันเดียวที่เกิดจากช่องดอกด้านข้าง ดอกเกิดในรอยบุ๋มบนส่วนบนของพืช อาศัยอยู่บนผิวน้ำโดยมีเซลล์พาเรงคิมาซึ่งทำให้สามารถลอยตัวได้ พืชชนิดนี้เติบโตและแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาวะที่เหมาะสม เช่น น้ำอุ่นและแสงสว่างจัด ไข่ผำจะสามารถเพิ่มขนาดเป็นสองเท่าได้ทุกๆ สองวัน ปกคลุมผิวน้ำได้อย่างรวดเร็ว เกิดประโยชน์ในการดูดซับสารอาหารส่วนเกินจากน้ำ และช่วยทำความสะอาดแหล่งน้ำได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้เติบโตโดยไม่มีการควบคุมอาจกลายเป็นพืชรุกรานได้
ไข่ผำอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะโปรตีน ใยอาหาร ไขมัน และสารพฤกษเคมี นักวิจัยพบว่าไข่ผำมีโปรตีนสูงถึง 48.2% ของน้ำหนักแห้ง ซึ่งใกล้เคียงกับเนื้อหมู เนื้อวัว และไข่ ที่สำคัญคือ โปรตีนในw-jzeประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
นอกจากนี้ ไข่ผำยังมีใยอาหารสูง อุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญ เช่น สังกะสี โพแทสเซียม แมงกานีส และเหล็ก รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีนอยด์ และสารประกอบฟีนอลิก ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ทั้งการต้านอนุมูลอิสระและการลดคอเลสเตอรอล ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ไข่ผำจึงมีศักยภาพสูงในการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ
ในอนาคต ไข่ผำอาจกลายเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาการขาดสารอาหารและเพิ่มความมั่นคงทางอาหารได้ ด้วยการเพาะเลี้ยงที่ง่าย เติบโตเร็ว และคุณค่าทางโภชนาการสูง ไข่ผำจึงเป็นพืชมหัศจรรย์ที่น่าจับตามองในโลกแห่งอาหารยุคใหม่ อีกทั้งยังเป็นการย้ำเตือนถึงความมหัศจรรย์ในโลกธรรมชาติ ที่สะท้อนให้เห็นว่าแม้สิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดก็สามารถมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศได้